รัฐบาล เดินหน้าทุก รร.ต้องปลอดบุหรี่ไฟฟ้า ย้ำ ประชาสัมพันธ์ภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า
(7 พ.ค. 68) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มเด็กและเยาวชนยังคงมีแนวโน้มพบการขยายตัวเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศอย่างน่าเป็นกังวล ด้วยรูปทรงที่มีลักษณะเอกลักษณ์เป็นตัวการ์ตูนหรืออาร์ตทอยมาพร้อมกับการแต่งกลิ่นให้มีลักษณะที่น่าดึงดูด ราคาไม่แพง และมาพร้อมกับการโฆษณาบนโลกออนไลน์ที่มุ่งเจาะกลุ่มตลาดลูกค้ากลุ่มเด็กและเยาวชนทำให้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถเข้าถึงเด็กและเยาวชนได้โดยง่าย
นายคารม กล่าวว่า เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมสังคมที่ปลอดบุหรี่ไฟฟ้าและแนวร่วมที่เข้มแข็งในการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าอย่างทั่วถึงทุกพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานศึกษาและสถานที่ทำงานในพื้นที่บริเวณส่วนราชการในสังกัดและองค์กรในกำกับกระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าผลักดันมาตรการให้สังคมปลอดภัยจากบุหรี่ไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มเด็ก เยาวชนและบุคลากรทางการศึกษากำหนดให้มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า ดังนี้
1.สร้างความตระหนักรู้เท่าทันพิษภัยและโทษของบุหรี่ไฟฟ้าทั้งต่อสุขภาพร่างกายและโทษทางอาญาให้แก่นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหารทุกระดับ และเจ้าหน้าที่ อาทิ สอดแทรกเนื้อหาหรือหลักสูตรการเรียนการสอน กิจกรรม สื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่าง ๆ
2.ให้ผู้รับผิดชอบสถานศึกษาหรือสถานที่ทำงาน จัดให้มีเครื่องหมายแสดงไว้ให้เห็นได้โดยชัดเจนว่าเป็นเขตปลอดบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า
3.ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นสอดส่อง ดูแลหรือป้องกันมิให้นักเรียน นักศึกษา ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา และเจ้าหน้าที่ เข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้าทั้งการสูบ จำหน่าย มีไว้ในครอบครอง หรือสนับสนุนอย่างหนึ่งอย่างใด
4.หากมีกรณีตรวจพบ หรือมีการร้องเรียนกล่าวหา หรือกรณีเป็นที่สงสัยว่าข้าราชการ ครู บุคลากรทางการศึกษา ผู้บริหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้องกับบุหรี่ไฟฟ้า ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่ทันที
นายคารม ย้ำว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งผิดกฎหมายเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าทุกชนิด กระทรวงศึกษาธิการสั่งการให้หัวหน้าหน่วยงานส่วนราชการในสังกัดองค์กรในกำกับ ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นถือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด หากพบว่าพื้นที่ใดมีเจ้าหน้าที่มีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยให้มีการขายหรือมีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าจะต้องถูกดำเนินการทางวินัยตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายอย่างถึงที่สุด
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เน้นย้ำถึงอันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าว่าพบมากในกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ บุหรี่ไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สูบบุหรี่ชนิดหนึ่งถูกทำให้น้ำยาในบุหรี่เป็นไอระเหย โดยไอระเหยประกอบไปด้วยสารนิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดที่มีผลเสียต่อสุขภาพ และยังมีโลหะหนัก รวมถึงฝุ่นขนาดเล็กกว่า pm 2.5 และมีสารปรุงแต่งกลิ่น รส โดยโทษของบุหรี่ไฟฟ้ามีปริมาณนิโคตินเท่ากับบุหรี่ทั่วไป จำนวน 20 มวน สารนิโคตินที่ก่อให้เกิดโทษต่อระบบร่างกายในส่วนต่างๆเช่น ระบบการหายใจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง ไอ เหนื่อยง่าย โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ระบบหลอดเลือดและหัวใจ อาจทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแข็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ระบบประสาทและสมองก็จะทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ความจำลดลง เรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง และระบบทางเดินอาหารทำให้เกิดแผลในกระเพาะ คลื่นไส้ อาหารไม่ย่อยกรดไหลย้อนและอาจนำไปสู่โรคมะเร็ง ส่วนผู้ที่สัมผัสสารพิษที่ตกค้างจากควันบุหรี่หรือที่เรียกว่า "บุหรี่มือสาม" อาจเกิดอาการผิวหนังอักเสบ ทั้งนี้ผู้ปกครองควรหมั่นสอดส่องดูแลเฝ้าระวังการเข้าถึงและการใช้บุหรี่ไฟฟ้า และเป็นแบบอย่างที่ดีโดยการไม่สูบบุหรี่หรือบุหรี่ไฟฟ้า และควรเข้มงวดให้บ้านและสถานศึกษาเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่
แสดงความคิดเห็น
แชร์